Nyanto (St. Jitti)

เริ่มต้นเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในปี 2013 เพื่อไปงาน Comiket 84(C84) โดยในครั้งแรกนี้เดินทางโดยการบินไทย และเป็นความพลาดที่จองเที่ยวบินที่ไปถึง Tokyo ในช่วงกลางคืน เพราะเจอ Flight Delay ส่งผลให้ไม่ทันขึ้นระบบขนส่งปกติ(รถไฟ/รถบัส) ต้องเสียค่า TAXI เข้าเมือง 7,700 เยน โชคดีที่ไปกัน 2 คน จึงมีคนช่วยกันหาร ก็ถือเป็นประสบการณ์

ปี 2014 ไปงาน Comiket 86/87(C86/C87) บินด้วยสายการบิน Delta จากความผิดพลาดในครั้งแรกทำให้ต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มขึ้น เนื่องจากครั้งแรกเพื่อนจองทุกอย่างให้หมด แต่ครั้งนี้เป็น Solo Traveler จึงจัดการเองทุกอย่างและเลือกที่จะไปพักที่ Ueno จึงเลือกบินไปถึงสนามบินนาริตะช่วงบ่ายแล้วขึ้นรถไฟ Keisei Main Line ไป Ueno ราคาประมาณ 1,300 เยนนิดๆ ปี 2014 นี้ก็ได้ไปเดินเที่ยวตามที่ต่างๆในโตเกียวตามที่ได้ว่างแผนเอาไว้

ปี 2016 ได้เดินทางไปเพื่อเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ Kofu จังหวัด Yamanashi เป็นเวลา 1 ปี ครั้งนี้ก็ได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆตั้งแต่การติดต่อสถาบันสอนภาษาเพื่อขอ Visa นักเรียน และอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่ประสานงานก็ได้จองเที่ยวบินขาเดียวของการบินไทยให้ เดินทางไปถึงช่วงเดือน 4 พอดี ไปถึงก็เจอดอกซากุระบานเลย ในปี 2016 ก็ได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งเรียนภาษา ทำงานพิเศษร้านซูชิสายพาน ทำงานด้านเกษตรในไล่องุ่น ซื้อตั๋วบินกลับไทยช่วงปิดเทอม ขึ้น รถไฟ/รถบัส เพื่อเข้าไปงานแสดงต่างๆที่ Tokyo อย่าง Comiket, Tokyo Idol Festival และ Tokyo Game Show ถ้าถามว่าไปเรียนเป็นปีขนาดนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่ พี่เนียนก็ขอบอกให้เตรียมไว้หลักล้านจ้า การทำงานพิเศษจะช่วยเรื่องความเป็นอยู่ได้เยอะ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเรื่องค่าเทอมได้ อย่างไรก็ตาม การไปครั้งนี้ก็มีประโยชน์มากมาย ได้เรียนรู้การใช้ภาษาพูดขณะทำงานของคนญี่ปุ่น และแนวทางการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่น

ปี 2018 หลังจากพอมีงบจึงเริ่มเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง และมีเรื่องหลายๆอย่างเข้ามาทำให้คิดได้ว่า ควรพาแม่ไปบ้างในขณะที่ยังมีโอกาศพาไป ซึ่งแม่พี่เนียนเคยพูดไว้ว่าอยากไปดูภูเขาไฟฟูจิ จึงมีเป้าหมายไปทะเลสาบคาวากุจิกัน ครั้งนี้เราไปกันด้วยการบินไทย พักที่ Hostel ย่าน Asakusabashi เนื่องจากพี่เนียนเคยไปพักระหว่างรอกลับไทยแล้วรู้สึกว่ามันโอเค จากประสบการณ์ในปี 2016-2017 ทำให้การจองตั๋วรถบัสสำหรับพี่เนียนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เราจึงเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิด้วยรถบัสแบบ One Day Trip ไปถึงก็ได้เจอหิมะกองตามถนน มีแผ่นน้ำแข็งบริเวณใกล้ฝั่งบนทะเลสาบคาวากุจินิดหน่อยเพราะเราไปกันเดือน 2 ก็ถือว่าเป็นทริปที่โอเคสมใจแม่พี่เนียน และในปีเดียวกันช่วงปลายเดือน 7 ก็ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยสายการบิน ANA เพื่อไปงานแสดงของเล่น Wonder Festival และ Tokyo Idol Festival

ปี 2019 ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับที่บ้านอีกในเดือน 2 โดยทริปนี้นอกจากแม่ก็มีพี่ชายมาด้วย ก็พาเดินเที่ยวกันรอบๆ Tokyo มีไป Sawara ที่ Chiba และไป Umihotaru ที่กลางอ่าวโตเกียว ทริปนี้สภาพอากาศก็ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เพราะเจอทั้งฝนทั้งหิมะ แต่นี่ก็เป็นสภาพอากาศปกติของเดือน 2 ที่ประเทศญี่ปุ่น

ปี 2020 ได้บินไปตามศิลปินเกาหลี เพราะเป็นทริปที่เร่งนิดหน่อยสายการบินแบบ Full Service จึงได้ราคาค่อนข้างสูง เลยเลือกใช้สายการบิน Thai AirAsiaX แทน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บิน Low Cost โดยรวมก็ถือว่าโอเค แต่ก็มีอาการ Shock อยู้หลายเรื่องจากการที่เคยบินแต่ Full Service โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าเจอทริปด่วนอีกครั้งก็คงรับได้กับการบิน Low Cost