ในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น จะมีบางช่วงที่เราขาดความคล่องตัวในการไปเที่ยวจนอาจทำให้เสียโอกาสและขาดเวลาเที่ยวไป ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเวลา ก่อนcheck-in / หลังcheck-out ที่พัก หรือจะเป็น การไปเข้า event ต่างๆ หลังจากการ shopping มาอย่างหนัก หิ้วของติดมามากมาย จากนี้ไปคุณสามารถสบายใจได้ เมื่อคุณได้รู้จักกับเจ้าเครื่อง Coin Locker หรือ ตู้รับฝากของนั่นเอง

ที่ตั้งของ Coin Locker ส่วนมากจะตั้งอยู่ตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ หรือเป็นส่วนบริการของโรงแรมที่เข้าพัก ซึ่งเจ้าเครื่อง Coin Locker นี้ จะมีขนาดให้ใช้งานหลักๆอยู่ 3 ขนาด ราคาแตกต่างกันไปตามขนาด โดยขนาดตู้ที่ใหญ่ที่สุด คุณสามารถนำกระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้ว ใส่เข้าไปฝากได้เลยทีเดียว ค่าบริการจะคิดเป็นรายวันโดยแต่ละตู้จะมีการแสดงอัตราค่าบริการรายวันและจำนวนเงินที่หยอดได้มากสุดเอาไว้แล้ว โดยหากคุณนำของออกก่อนเวลา ก็จะเสียเงินที่หยอดนั้นไปเลย หากจะฝากต้องก็ต้องหยอดใหม่ แต่ถ้าฝากไว้เกินเวลา ต้องหยอดเงินเพิ่มตามเวลาที่เกิน ถึงจะนำกระเป๋ากลับออกมาได้

ปัจจุบันเครื่อง Coin Locker จะมีหลักๆอยู่ 2 แบบ ซึ่งการใช้งานจะมีความซับซ้อน และความสะดวกสบายต่างกันไป โดยผมขอแยกออกเป็น 2 แบบดังนี้

แบบใช้ลูกกุญแจล็อค - ตู้ประเภทนี้การใช้งานจะไม่ค่อยซับซ้อน เพียงแค่สังเกตว่าตู้ไหนที่มีกุญแจปักไว้อยู่ แสดงว่าตู้นั้นว่าง ให้นำของที่จะฝากใส่เข้าไปแล้วทำการยอดเหรียญเข้าไปตามจำนวนที่เครื่องระบุเอาไว้ เมื่อหยอดครบให้บิดกุญแจแล้วดึงออกเอาติดตัวเราไป แล้วลองดึงตู้เช็คดูว่าล็อคหรือยัง

ข้อดีของตู้แบบนี้ ใช้งานง่าย ไม่ต้องทำความเข้าใจเยอะ

ข้อเสียของตู้แบบนี้ คุณต้องมีเหรียญตามที่ตู้กำหนดเพียงพอที่จะหยอดให้ครบตามค่าบริการ และต้องรักษากุญแจไว้ให้ดี อย่าทำหาย

แบบดิจิตอล - ตู้ประเภทนี้จะไม่มีการใช้ลูกกุญแจ บางตู้จะมีแผงควบคุมส่วนกลางของตู้อยู่ การใช้บริการ ให้มองหาตู้ที่ไม่ได้เปิดไฟแดง แสดงว่ายังว่าง ให้นำของใส่เข้าไปแล้วกดปุ่มลงเพื่อล็อค ไฟที่ตู้จะติดขึ้นมา จากนั้นให้ไปชำระค่าบริการที่แผงควบคุมส่วนกลาง แล้วระบบจะทำการออกใบเสร็จข้อมูลการใช้บริการให้เรา โดยจะมีระบุที่อยู่และเลขตู้เอาไว้ในใบนั้น


รูปตัวอย่างแผงควบคุมส่วนกลาง Tab ด้านบนของจอจะเป็นปุ่มเปลี่ยนภาษา 

รูปตัวอย่างใบเสร็จที่ได้จากตู้ จากการใช้ PASMO

ข้อดีของตู้แบบนี้ ตู้แบบแผงควบคุมส่วนกลาง สามารถชำระค่าบริการด้วยบัตรโดยสารรถไฟ Suica/PASMO ได้ จึงให้ความสะดวกสบายอย่างมาก ไม่ต้องพกเหรียญติดตัว ไม่ต้องระวังลูกกุญแจจะหาย เวลาจะนำออก เพียงกดที่ตู้ว่าจะนำออกแล้วนำบัตรแตะ ตู้ก็จะปลดล็อคทันที เราไม่จำเป็นต้องจำเลขตู้ว่าใส่ไว้ช่องไหน(แต่จำไว้หน่อยก็ดีนะครับ)

ข้อเสียของตู้แบบนี้ เราต้องทำความเข้าใจการใช้งานของแผงควบคุมส่วนกลาง แต่ก็ไม่ได้ยากเย็น เนื่องจากมีปุ่มกดเปลี่ยนภาษา และมีคำแนะนำวิธีใช้แบบภาษาอังกฤษให้อีกด้วย

หากเราใช้บริการเครื่อง Coin Locker เพียงเท่านี้ เราก็สามารถไปเดินเล่นตัวเบาได้สบายใจไร้กังวล ไม่ต้องหิ้วของ ไม่ต้องหอบของ ไม่ต้องระวังของหาย

เราหวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบโอตาคุ เพราะเราคือ โอตาคุเที่ยวญี่ปุ่น