นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดโตเกียวโดยเครื่องบิน จะต้องมาลงจอดที่ Narita Airport ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสนามบินนี้กว้างใหญ่ขนาดที่ต้องแบ่งการจัดการเป็น 3 อาคาร เพื่อที่จะสามารถจัดการเตรียมเที่ยวบินไปยังจุดหมายต่างๆทั่วโลก และในแต่ละอาคารก็มีร้านค้าที่แตกต่างกันตั้งแต่ด้านนอกไปจนถึงส่วนใน Duty Free


Narita Airport Terminal 1 สำหรับอาคาร 1 สินค้าในร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free) จะค่อนข้างหลากหลาย มีของฝากที่น่าสนใจทั้งสินค้าอุปโภค/บริโภค หากว่าคุณเคยมาที่ร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free) ของ Narita Airport อาคาร 1 ก็จะรู้ว่าสินค้าโดยรวมจะคล้ายอาคาร 2 แต่มันจะมีสินค้าบางตัวที่ อาคาร 2 หาซื้อไม่ได้ หรือบางชิ้นก็มีราคาที่ถูกกว่า ส่วนเที่ยวบินตรง ไป-กลับ จากกรุงเทพฯที่ใช้ Narita Airport อาคาร 1 จะเป็นสายการบินในกลุ่ม Star Alliance อย่างเช่น Thai Airway, ANA


Narita Airport Terminal 2 ในส่วนอาคาร 2 เมื่อผ่าน ตม. เข้ามาที่อาคาร 2 สิ่งที่เราจะได้พบก่อนสิ่งอื่นใดคือดงกาชา เอามาตั้งล่อลวงดูดเงินเยนเราตั้งแต่ยังไม่เริ่มเที่ยวเลย เนื่องจากตัวอาคาร 2 มีขนาดเล็กกว่า อาคาร 1 จึงมีร้านค้าไม่มากนักแต่จุดเด่นอยู่ที่มีสาขาของร้าน Pokemon Store และร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free)ภายใน  จะเน้นสินค้าไปทาง น้ำหอม เครื่องสำอางค์ และเหล้า/ยาสูบ สินค้าแบรนด์เนม สำหรับเที่ยวบินตรง ไป-กลับ จากกรุงเทพฯที่ใช้ Narita Airport อาคาร 2 ส่วนมากจะเป็นสายการบินอันดับรองอย่าง Japan Airline และสายการบิน Low Cost อย่าง AirAsiaX, NokScoot

Narita Airport Terminal 3 เป็นอาคารที่พวกเราคงไม่น่าจะได้ไปกัน เพราะเป็นอาคารที่ใช้สำหรับเที่ยวบินขนส่งสินค้านั่นเอง เป็นพื้นที่สำหรับบริษัทขนส่งอย่าง FedEx, UPS


สิ่งอำนวยความสะดวกของทุกอาคารไม่ค่อยมีความแตกต่างกันเท่า สนามบินดอนเมือง vs. สนามบินสุวรรณภูมิ สิ่งที่อาจจะมีส่วนในการตัดสินใจเลือกบินที่อาคารไหนคงจะเป็นสินค้าในร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free) เพราะเราไม่สามารถเลือกไปเข้าร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free)ของอาคารอื่นได้ นอกจากอาคารที่เรามีเที่ยวบินเท่านั้น

สำหรับท่านที่สนใจติดตามรับข้อมูลการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบโอตาคุกับเรา สามารถกดติดตามได้ที่
Facebook Page: https://www.facebook.com/otatour.jp/
อย่าลืมกด See First เพื่อเห็นโพสต์ก่อนใคร

Nyanto@otatour.blogspot.com